http://netra.lpru.ac.th/~phaitoon จักรกฤษณ์ สำราญใจ กล่าวว่า
วรรณกรรมหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง (related literature) หมายถึง เอกสารงานเขียนที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับหัวข้อปัญหาที่ผู้วิจัยสนใจ วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องอาจมีหลายลักษณะ เช่น เป็นตำรา สารานุกรม พจนานุกรม นามานุกรม ดัชนี รายงานสถิติ หนังสือรายปี บทความในวารสาร
จุลสาร ที่สำคัญก็คือรายงานผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้น ผู้วิจัยจะต้องทำการสำรวจอ่านทบทวนอย่างพินิจพิเคราะห์ ทักษะที่สำคัญของการทำวิจัยในขั้นตอนนี้คือ
ทักษะในการสืบค้นหาสารนิเทศจากแหล่งต่าง ๆ และทักษะในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ
http://www.bestwitted.com ได้รวบรวมและกล่าวถึงทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องไว้ว่า การทบทวนวรรณกรรม
หมายถึง
การศึกษาค้นคว้าเอกสารหรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้วิจัยกำลังจะทำการศึกษา
เพื่อให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎี แนวคิด
อันเชื่อมโยงมาสู่การกำหนดกรอบแนวคิดและตัวแปรที่เกี่ยวข้องซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ
จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรม
1.การอ้างอิงเชิงทฤษฎี
(Theoretical
Reference)
2.การอ้างอิงเชิงประจักษ์
(Empirical
Reference)
จุดมุ่งหมายของการทบทวน เพื่อให้ทราบว่ามีผู้ใดเคยศึกษาหรือวิจัย
มาก่อน เพื่อให้ทราบถึงวิธีการศึกษาของผู้วิจัยอื่นๆ เพื่อให้ทราบถึงปัญหา
อุปสรรคที่เคยพบของงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
แหล่งของวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
1.หนังสือทั่วไป
(General
Books)
2.หนังสืออ้างอิง
(Reference
Book)
-สารานุกรม (Encyclopedia)
-พจนานุกรม (Dictionary)
-หนังสือรายปี
(Yearbooks)
-บรรณานุกรม
(Bibliographies)
-ดัชนีวารสาร
(Periodical
Indexes)
-นามานุกรม (Directories)
แหล่งของวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
-วิทยานิพนธ์
(Thesis)
-วารสาร (Journals)
-รายงานการวิจัย
(Research
Report)
-เอกสารทางราชการ
-ไมโครฟิล์ม
-หนังสือพิมพ์
(Newspaper)
ขั้นตอนในการทบทวนวรรณกรรม
-กำหนดขอบเขตของการทบทวนวรรณกรรม
-ค้นหาเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
-การเลือกเอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
-การอ่านเอกสาร
-บันทึกข้อมูล
-การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
หลักการเขียนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
รูปแบบการอ้างอิง
อ้างอิงเชิงอรรถ
(Footnote
Style ) ท้ายหน้าที่อ้างอิง โดยมีชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือ หรือ บทความ ปีที่พิมพ์และหมายเลขหน้า
อ้างอิงระบบ
นาม – ปี (Author – Date Style) มีเฉพาะชื่อนามสกุล
ปีที่พิมพ์ และหมายเลขหน้า โดยวงเล็บไว้หลังข้อความที่อ้างอิง
http://blog.eduzones.com/jipatar/85921
ได้กล่าวไว้ว่า ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อาจเรียกว่า
การทบทวนวรรณกรรม
ส่วนนี้เป็นการเขียนถึงสิ่งที่ผู้วิจัยได้มาจากการศึกษาค้นคว้าเอกสารต่างๆ
ทั้งทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ ทฤษฎี หลักการ ข้อเท็จจริงต่างๆ
แนวความคิดของผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนผลงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของผู้วิจัย
รวมทั้งมองเห็นแนวทางในการดำเนินการศึกษาร่วมไปกับผู้วิจัยด้วย
โดยจัดลำดับหัวข้อหรือเนื้อเรื่องที่เขียนตามตัวแปรที่ศึกษา
และในแต่ละหัวข้อเนื้อเรื่องก็จัดเรียงตามลำดับเวลาด้วย
เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นพัฒนาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับปัญหา นอกจากนี้ผู้วิจัยควรจะต้องมีการสรุปไว้ด้วย
เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นความสัมพันธ์ทั้งส่วนที่สอดคล้องกัน ขัดแย้งกัน
และส่วนที่ยังไม่ได้ศึกษาทั้งในแง่ประเด็น เวลา สถานที่ วิธีการศึกษาฯลฯ
การเขียนส่วนนี้ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการตั้งสมมติฐานด้วย
หลังจากที่ผู้วิจัยได้เขียนเรียบเรียงการทบทวนวรรณกรรมแล้ว
ควรมีการประเมินงานเขียนเรียบเรียงนั้นอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีความสมบูรณ์ทั้งเนื้อหา
ภาษา และความต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน
สำหรับการประเมินการเขียนเรียบเรียงการทบทวนวรรณกรรม Polit & Hungler
(1983, อ้างใน ธวัชชัย วรพงศธร, 2538 ) ได้ให้ข้อเสนอแนะที่สำคัญไว้
โดยการให้ตอบคำถามต่อไปนี้
1. รายงานนั้นได้มีการเชื่อมโยงปัญหาที่ศึกษากับปัญหาวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งศึกษามาก่อนแล้วหรือไม่
1.1
รายงานนั้นได้เรียบเรียงจากแหล่งเอกสารทุติยภูมิมากเกินไปหรือไม่
ซึ่งตามความ
เป็นจริงแล้วควรใช้แหล่งเอกสารปฐมภูมิ
(ต้นฉบับ) ให้มากที่สุด
1.2 รายงานได้ครอบคลุมเอกสาร
ที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่ศึกษาครบหมดหรือไม่
1.3 รายงานได้ครอบคลุมเอกสารใหม่ๆหรือไม่
1.4
รายงานได้เน้นในเรื่องความคิดเห็น หรือการบันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรม
มากเกินไปและมีการเน้นผลการวิจัยด้านปฏิบัติจริงๆ น้อยไปหรือไม่
1.5
รายงานได้เรียบเรียงข้อความอย่างต่อเนื่องสมบูรณ์หรือไม่
หรือเป็นเพียงแต่ลอก
ข้อความจากเอกสารต้นฉบับมาเรียงต่อกันเท่านั้น
1.6 รายงานนั้นเป็นแต่เพียงสรุปผลการศึกษาที่ทำมาแล้วเท่านั้น
หรือเป็นการเขียนใน
เชิงวิเคราะห์วิจารณ์
และเปรียบเทียบกับผลงานเด่นๆ ที่ศึกษามาแล้วหรือไม่
1.7 รายงานได้เรียบเรียงในลักษณะที่เชื่อมโยง
และชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในความ
คิดอย่างชัดเจนมากน้อยแค่ไหน
1.8 รายงานได้นำผลสรุปของงานวิจัยและข้อเสนอแนะของการนำผลการวิจัยไปใช้
ทั้งหมด มาเชื่อมโยงกับปัญหาที่จะศึกษามากน้อยแค่ไหน
2.
รายงานนั้นได้มีการเชื่อมโยงปัญหาที่ศึกษากับกรอบทฤษฎี หรือ
กรอบแนวคิดหรือไม่
2.1
รายงานได้เชื่อมโยงกรอบทฤษฎีกับปัญหาที่ศึกษาอย่างเป็นธรรมชาติหรือไม่
2.2 รายงานได้เปิดช่องโหว่ให้เห็นถึงกรอบแนวคิดอื่นที่เหมาะสมกว่าหรือไม่
2.3 รายงานได้เชื่อมโยงอนุมานจากทฤษฎี
หรือกรอบแนวคิดอย่างมีเหตุมีผลหรือไม่
สรุป
ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง หมายถึง
การค้นคว้าศึกษารวบรวมและประมวลผลงานทางวิชาการ เช่น ผลงานวิจัย บทความเอกสารทางวิชาการ และตำราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหรือประเด็นที่ทำการวิจัยเพื่อประเมินประเด็น แนวความคิด ระเบียบวิธีการวิจัย ข้อสรุป ข้อเสนอแนะจากผลงานวิจัยหรือเอกสารสิ่งพิมพ์ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหรือประเด็นของปัญหาของการวิจัยก่อนที่จะลงมือทำการวิจัยของตนเองและในบางครั้งอาจมีการทบทวนเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ลงมือทำไปบ้างแล้ว
อ้างอิง
จักรกฤษณ์
สำราญใจ http://netra.lpru.ac.th/~phaitoon สืบค้นเมือวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555.
http://www.bestwitted.com
สืบค้นเมือวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น